คุณเคยได้ยินวันที่กลางคืนยาวนานที่สุด กลางวันสั้นที่สุดหรือไม่ วันนั้นเราเรียกว่า ”วันเหมายัน” ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้จะเกิดขึ้นทุกปีตามประเทศทางซีกโลกเหนือ รวมถึงประเทศไทย จีน และญี่ปุ่นด้วย สาเหตุเกิดจากอะไร เกิดขึ้นช่วงไหน เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่น่าสนใจอย่างไร และเกี่ยวข้องกับ ส้มยูซุ ได้อย่างไร เรามาหาสนุกไปด้วยกันเลย
เหมายัน ในภาษาไทยมาจากคำว่า “เหมันต์” กับ “อายัน” มาสนธิกัน มีขึ้นในหนึ่งวัน ประมาณช่วงวันที่ 21 หรือ 22 ธันวาคม ของทุก ๆ ปี ซึ่งในวันนี้จะทำให้บริเวณซีกโลกเหนืออาจอยู่ในความมืดตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่ทางซีกโลกใต้อาจมีกลางวันที่ยาวนานมากที่สุด จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พระอาทิตย์เที่ยงคืน หรือครีษมายัน”
ตามความเชื่อของคนไทย เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ตะวันอ้อมข้าว” ซึ่งเกิดจากการที่ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ไม่เคลื่อนผ่านเหนือศรีษะแต่จะเคลื่อนอ้อมต้นข้าวไปทางทิศใต้แทน ส่วนทางประเทศจีนและญี่ปุ่นจะเชื่อกันว่าวันเหมายัน หรือ “冬至 (โทจิ)” นี้จะทำให้โชคดี ดวงดีเพิ่มมากขึ้น จนทำให้เกิดการเฉลิมฉลองโดยการ “แช่น้ำกับส้มยูสุ และกินฟักทอง” เกิดขึ้น ทำให้กลายมาเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นจวบจนทุกวันนี้
ส้มยูสุ พบมากในประเทศญี่ปุ่น เป็นส้มที่มีผลสีเหลือง น้ำเยอะ เนื้อน้อย มีผิวขรุขระ เปลือกหนา มีกลิ่นหอม เหมาะสำหรับทำเป็นน้ำมันหอมละเหยเป็นอย่างมาก ตามตำนานเชื่อกันว่า คำว่า “ยูสุ” ในภาษาญี่ปุ่นคล้ายกับคำว่า “ยูดู” ที่แปลว่า ยืดหยุ่น และคำว่า 冬至 ที่ออกเสียงว่า “โทจิ” เหมือนกับ 湯治 ที่แปลว่า การรักษาด้วยการอาบน้ำแร่ อีกทั้งยังเชื่อกันว่า ส้มยูสุมีความแข็งแรง อายุยืนยาว การที่เราได้แช่น้ำกับส้มอยู่สุจึงเปรียบเสมือนการขอพรให้เราปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนั่นเอง
ซึ่งในความเป็นจริงการแช่น้ำกับส้มยูสุเกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยเอโดะ จากการนำส้มไปลอยในอ่างน้ำหรือบ่อน้ำร้อน เพราะผลของส้มจะช่วยให้ร่างกายได้เกิดการไหลเวียนของเลือดที่ดี ป้องกันการเกิดไข้หวัดและอาการหนาวสั่น มีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยให้ผิวพรรณสวยงาม นุ่มนวล ไม่แห้งกร้าน แถมยังมีกลิ่นหอมมากจึงช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้ดี อีกทั้งส่งผลถึงระบบประสาทด้วย ปัจจุบันเราจะเห็นส้มยูสุมาใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ มากมาย เช่น นำมาประกอบเป็นอาหาร ทำเบเกอรี่ อยู่ในส่วนผสมของเครื่องสำอางและยา
เมื่อถึงวันเหมายัน คนญี่ปุ่นมักจะกินฟักทองกันสาเหตุก็เพราะว่าฟักทองที่เก็บเกี่ยวไว้ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนจจนถึงฤดูใบไม้ร่วงสุขได้ที่พอดีในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาวทำให้ช่วงนี้ฟักทองจะสามารถกินได้เอร็ดอร่อยมากที่สุด และถ้าหากพูดถึงคุณประโยชน์ของฟักทองก็มีมากมายเช่นกัน ตั้งแต่ป้องกันโรคหวัด ช่วยในการชะลอวัย เพราะมีวิตามินบีและเบต้าแคโรทีนจำนวนมาก ทั้งยังมีกากใยอาหารที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในวันเหมายันที่เราอยากจะนำเสนอให้ทุกคนได้รู้จักกันครับ ไม่น่าเชื่อว่าคนญี่ปุ่นจะให้ความสำคัยกับวันต่าง ๆ ขนาดนี้ แม้ว่าเรื่องของความเชื่อของไทบกับญี่ปุ่นอาจจะแตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ วันเหมายัน คือ วันที่บ่งบอกว่าได้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
แม้ว่าวันในการเฉลิมฉลองอาจไม่ได้มีทุกวัน แต่เราสามารถทานอาหารเหมือนเฉลิมฉลองได้ทุกวัน ทุกมื้อที่ร้านอาหารญี่ปุ่น “คาโบฉะ (Kabocha)” หรือจะสั่ง เดลิเวอรี่ (Delivery) ก็ได้ครับ เพราะที่ ร้านอาหารญี่ปุ่น ของเรา จะทำให้ทุกคนสามารถสนุกกับการทานอาหารญี่ปุ่นมากมายโดยไม่ซ้ำเมนู ด้วยการคัดเลือกวัตถุดิบที่เน้นแต่ของดี ผสมผสานกับการปรุงรสแบบพิถีพิถันของเซฟมืออาชีพจนได้เป็นอาหารญี่ปุ่นชั้นยอดระดับพรีเมี่ยมที่ทุกคนต้องประทับใจ เพราะเราอยากให้ทุกมื้อของคุณคือวันพิเศษ อยากมีโมเมนต์ดี ๆ ต้องมาทานที่คาโบฉะกันนะครับ